ตอนแรกนั้นผมกำลังกลุ้มว่าจะเขียนบทนี้อย่างไรดี จนมาคิดได้ว่าเรามีเนื้อหาที่ดีจากหนังสือที่หลายคนน่าจะไม่เคยอ่านอยู่แล้ว ก็น่าจะนำมาใช้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าว่ากันตามวิธีมาตรฐานที่รู้จักกันนั้น วิธีนี้จะใช้ไม้ติ้วเพียง 50 แท่ง และเมื่อหยิบออกจะทำการหยิบออกเพียงหนึ่งแท่งเท่านั้นครับไม่ใช่หกแท่ง ในนิยายของหวงอี้จะเรียกหนึ่งแท่งที่หยิบออกไปนี้ว่า “เลขหนึ่งที่หายไป”
แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายก็จะได้ 49 แท่งครับ และกระบวนการหลังจากนั้นก็จะตามขั้นตอนจากหนังสือที่ผมลงไว้ทุกประการครับ

นอกจากนี้ วิธีการนับยังมีหลายแบบครับ ในรูปที่ผมลงจะเป็นวิธีนับจำนวนกลุ่ม ยังมีวิธีนับเศษ รวมทั้งยังมีวิธีแบ่งแบบ 8 แท่ง เพื่อหาเศษเป็นเลขของตรีลักษณ์ด้วย ส่วนเนื้อหาส่วนอื่นผมค่อยมาลงต่อครับ

สำหรับ ไม้ติ้วนั้น ปกติแล้วผมจะใช้ไม้ลูกชิ้นที่ซื้อตามห้างครับ เพราะผ่านการฆ่าเชื้อราแล้ว แล้วทำการตัวปลายแหลมออกครับ ให้ยาวประมาณ 7 นิ้วครับ เรียกว่าขนาดเหมาะมือครับ สำหรับเนื้อหาลองติดตามจากรูปด้านล่างนะครับ เป็นเวอร์ชั่นชั่วคราวนะครับ เดี๋ยวผมมีเวลามากขึ้นจะมาเขียนขยายความเพิ่มเติมครับ

อ้อ อย่าลืมคลิกที่รูปเพื่อดูรูปขนาดใหญ่นะครับ

วิธีเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว 1

วิธีเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว 2

วิธีเสี่ยงทายด้วยไม้ติ้ว 3

 

**เครดิต “สนุกกับอี้จิง” สำนักพิมพ์ดอกหญ้าครับ

เมื่อวันก่อนนี้ วันเสาร์ที่ 13 มีนาคม 2553 ขณะที่ผมกำลังสอนมวยไท่จี๋อยู่ ก็ได้คุยเรื่องหุ้นกับลูกศิษย์ไปเรื่อยเปื่อยและคุยเรื่องหุ้นตัวที่ลูกศิษย์ท่านนี้เพิ่งขายไปคือ CPF แล้วผมก็ถูกถามให้ทายด้วยอี้จิงดอกเหมยแปลงเลขว่า วันจันทร์นี้( 15 มีนาคม 2553 ) จะสามารถเข้าซื้อหุ้น CPF จะเข้าซื้อหุ้นได้หรือไม่? ความหมายคือเมื่อซื้อหุ้นแล้วจะขึ้นต่อหรือไม่ อะไรแบบนั้น ซึ่งผมจับยามเวลาถามมาทาย ได้กว้าบนเป็นเฉียนฟ้า-ธาตุทองเป็นกว้าเจ้าการ ส่วนกว้าล่างได้คุนดิน-ธาตุดินเป็นกว้าเหตุทาย กว้าเหตุทายส่งเสริมถือว่าซื้อได้ กว้าเปลี่ยนผมจำไม่ได้แล้ว กว้าเชื่อมได้ซวิ่นลม-ธาตุไม้ กับเกิ้นภูเขา-ธาตุดิน ไม้ข่มดิน ทำให้ดินไม่มีกำลังส่งเสริมทอง ดูแล้วการเคลื่อนไหวของหุ้นในวันจันทร์ตัวนี้จะไม่สูงมาก คือน่าจะยังทรงๆหรือขึ้นเล็กน้อย ผมจึงบอกไปว่าจะซื้อก็ได้ แต่ต้องรอซื้อต่ำๆหน่อย(เพราะถ้าหุ้นวันจัทร์ไม่ขึ้นพรวดพราด ถ้าซื้อสูงหุ้นก็จะไม่ไปไหนอยู่ดี)

ลูกศิษย์ท่านนี้เลยพูดว่า ปัญหาคือไม่รู้ว่าต้องซื้อที่ราคาเท่าไหร่? ผมเลยดูเลขกว้า เฉียนเป็น 1 คุนเป็น 8 ถ้ารอดักซื้อราคาดีคือต้องเป็นราคาต่ำที่สุดที่ควรเข้าซื้อ ผมเลยถามไปว่าตอนนี้ราคาเท่าไหร่ ได้คำตอบว่าราคาปัจจุบันคือ 12 บาทต่อหุ้น ผมเลยเอาเลขกว้ากำหนดราคาที่เหมาะสมคือเป็นราคาที่ต่ำกว่า 12 บาท ได้สองราคา คือ 10.80 บาท กับ 11.80 บาท ต่อหุ้น ซึ่งมองแล้ว 10.80 ไม่ใช่เพราะดูแล้วการเคลื่อนไหวของหุ้นไม่สูง และหุ้นไม่ควรตกแรงเพราะกว้าเจ้าการไม่ได้ถูกข่ม ดังนั้นราคาที่ควรเป็นคือ 11.80 ผมเลยตอบไปอย่างไม่ลังเลว่า รอเข้าซื้อที่ราคา 11.80 บาทเป็นราคาที่ดีที่สุดซึ่งผลต่อมาได้ดังรูปล่าง

วันนี้วันจันทร์ ผลปรากฏว่าราคาตกลงไปต่ำสุดถึง 11.80 บาท ตามที่ทายไว้ แล้วก็ขึ้นมาสูงสุดที่ 12.10 บาทต่อหุ้น คือกำไร 30 สตางค์ ซึ่งถ้าเก็งกำไรระยะสั้นก็ได้กำไรไปตามจำนวนซื้อ เสียดายว่าโทรไปถามลูกศิษย์ท่านนี้แล้วกลับไม่ได้ซื้อไว้ เพราะ Marketing ทักว่าราคาอาจจะลงต่อ ก็เลยอดไป แต่เราก็ได้ตัวอย่างการทำนายมาลงให้อ่านกันครับ

สำหรับการทำนายนี้ โดยทั่วไปแล้วผมเองมีประสบการณ์ของตัวเองอยู่มาก แต่ขาดพยานหลักฐานเลยไม่ได้เอามาลงให้อ่านกัน แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ยังมีคนอื่นอีกท่านอยู่ด้วยก็ถือว่าเป็นพยานอีกท่านหนึ่ง เลยไม่ขัดเขินที่จะเขียนมาให้อ่านกันครับ

กล่าวถึงการศึกษาพื้นฐานศาสตร์วิชาความรู้โบราณพื้นฐานและวัฒนธรรมจีน หากไม่ศึกษาอี้จิงยังไม่อาจนับว่ามีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ (***หมายถึงวัฒนธรรมจีนแบบโบราณก่อนถูกทำลายล้างจนสูญสิ้นโดยการปฏิวัติวัฒนธรรม และการปกครองแบบคอมมิวนิสต์)

ปัจจุบันนั้น เมื่อพูดถึงอี้จิง แผนภาพแปดทิศ(ปากว้า) คนมักคิดถึงแต่ว่าเป็นวิชาโหราศาสตร์ทำนายทายทักไป ทั้งๆที่วิชานี้คือรากฐานอันยิ่งใหญ่หนึ่งในวัฒนธรรมจีน เป็นที่มาพื้นฐานของศาสตร์วิชาต่างๆภายใต้วัฒนธรรม แม้แต่เกาหลีที่ใช้วัฒนธรรมจีนมาแต่เดิมยังเอารูปแผนภาพแปดทิศมาเป็นสัญลักษณ์ในธงชาติ  ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความใกล้ชิตต่อชีวิตผู้คน แม้ขงจื้อเองยังได้เรียบเรียงตำราโจวอี้ จนเป็นหนึ่งในตำราที่ขงจื้อได้เรียบเรียงขึ้น และอี้จิงเองได้กลายเป็นสิ่งขับเคลื่อนในประวัติศาสตร์จีนมาตลอดเวลา ศาสตร์ต่างๆไม่ว่าการแพทย์ ปรัชญา คณิตศาสตร์ ศิลปะการต่อสู้ ฯลฯ ต่างก็ไม่พ้นอิงจากวิชาในอี้จิงเป็นหลักกันทั้งสิ้น และที่สำคัญที่สุด อี้เสวีย หรือศาสตร์แห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ได้มีบทบาทสำคัญต่อแนวคิดและความเชื่อของชาวจีนมาตลอดระยะเวลาหลายพันปี

เหตุที่อี้จิงสำคัญถึงเพียงนั้น เพราะอี้จิงได้บรรจุเอาแนวคิด ปรัชญา และหลักเหตุผลทางธรรมชาติตามทัศนคติของจีนทั้งมวลไว้ ว่าตามสำนวนจีนคือได้บรรจุความลับฟ้าดินทั้งหมดไว้ การใช้ความรู้ในวิชาอี้เสวียและการศึกษาตำราอี้จิงนี้จึงสามารถใช้ได้หลากหลายไม่สิ้นสุดครอบคลุมทั้งสามภพ ทั้งลิขิตฟ้า ชะตาคน และชัยภูมิดินล้วนครอบคลุมทั้งสิ้น ทั้งทำความเข้าใจชิวิต เหตุผลในโลกหล้า ปรัชญาการรู้แจ้ง เมื่ออี้จิงสามารถบอกถึงเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงในชีวิตคนผู้หนึ่ง จึงไม่น่าแปลกใจที่อี้จิงสามารถทำนายชะตาชีวิตหรือผลที่จะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายได้

ดังนั้นที่เราควรศึกษาอี้จิง ทั้งเป็นเพราะจำเป็นในการทำความเข้าใจศาสตร์วิชาจีน ทั้งยังเป็นศาสตร์วิชาที่สามารถนำมาทำความเข้าใจเหตุและผลทั้งของฟ้า ดิน และชีวิต ยามจำเป็นยังสามารถทำนายทายทักสิ่งที่จะเกิดและผลทั้งหลายจากเหตุทั้งปวง ยังผลให้อี้จิงสามารถเป็นศาสตร์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ ดังที่ขงจื้อในวัย 70 ว่าไว้ว่า

“หากฉันมีอายุยืนยาวต่อไปอีกห้าสิบปี ฉันจะใช้เวลาที่มีศึกษาโจวอี้ และด้วยเหตุนี้ ฉันย่อมสามารถหลีกจากความผิดพลาดทั้งหลายได้”

เมื่อวานอยู่ๆผมได้หวนคิดถึงหนังจีนชุดสมัยเก่าก่อน สมัยที่ยังไม่มีหนังเกาหลีเต็มช่องสถานีทีวีแบบทุกวันนี้ และอดคิดถึงหนังจีนชุดที่ถือว่าเป้นตำนานความนิยมเรื่องหนึ่งไม่ได้ นั่นคือเรื่อง “เปาบุ้นจิ้น”

เปาบุ้นจิ้นนั้นมีหลายตอนมากในสมัยนั้น เนื่องจากความนิยมยังมีการสร้างแล้วสร้างอีกหลายเวอร์ชั่น หลังจากเวอร์ชั่นแรกของไต้หวันได้ทำรายได้ถล่มทลายและทำเอาคนดูหนังชาวไทยติดกันงอมแงมไปแล้ว ทางฝั่งฮ่องกงก็ไม่ยอมน้อยหน้าสร้างเปาบุ้นจิ้นเวอร์ชั่นใหม่มาแข่งทันที ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยประทับใจเท่าเวอร์ชั่นแรกมากนัก โดยเฉพาะของฝั่ง TVB นี่ผมจำไม่ได้เลยว่ามันมีตอนอะไรมั่ง…

แต่ของฝั่งช่อง ATV ที่ได้ทุ่มทุนสร้าง และนำตัวละครหลักจากชุดของไต้หวันมาแสดง(ขาดเหอเจียจิ้ง-จั่นเจา) แม้ส่วนใหญ่ผมจะลืมเลือนไปแล้ว แต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่ยังจำได้ และคงต้องถือเป็นตอนเด่นของเปาบุ้นจิ้นชุดนี้และเป็นที่ประทับใจของแฟนๆในเวลานั้นกันมาก รวมถึงยังมีพบเห็นคนแสดงความนิยมกันในเว็ปไซต์หลายที่ในปัจจุบันเช่นกัน นั่นคือตอน “หมอดูใจเพชร (新包青天之侠骨神算)”

(ที่พันทิปยังมีคนถามถึงอยู่เลย คลิกดูครับ )

แน่นอนว่าตัวเอกก็คงไม่พ้นตัวละครหมอดูใจเพชรในเรื่องนั่นแหละครับ ซึ่งรับบทโดย “หม่าจิ่งเทา” เป็นตัวละครที่เปิดตัวด้วยชุดสีขาว มาดสุดกวน ชอบยืนนับนิ้วคำนวณ แต่เก่งเหลือหลาย เป็นซินแสระดับเทวดากันเลยทีเดียว มาถึงก็สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งไร้ฝนเจ็ดเดือนในเมืองไคฟงได้ในเพียงสองวัน

…จำได้ว่าสมัยนั้น เห็นเด็กหลายคนชอบยืนทำท่านับนิ้วคำนวณตามหนังกันเลยทีเดียว
และแม้ว่าชื่อของตัวละครนำในแต่ละตอนนั้นจะไม่ค่อยเป็นที่จำได้กันเท่าไหร่ แต่ชื่อของตัวละครนำในตอนหมอดูใจเพชรนี้กลับได้รับการจดจำกันได้เป็นส่วนมาก และหลายคนยังจำชื่อนี้ได้ถึงปัจจุบัน…

ตัวละครหมอดูใจเพชรนี้ ก็คือ “เส้าคังเจี๋ย” ซึ่งในเวลานั้นหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า เป็นบุคคลที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์จริงในสมัยราชวงค์ซ่งเหนือ และเป็นผู้คิดค้นวิชาทำนายดอกเหมยแปลงเลข ที่เราได้ลงในบล็อกมาอย่างต่อเนื่องนั่นเอง
และท่านเส้าคังเจี๋ยนี้ยังเป็นหนึ่งในห้าบัณฑิตแห่งยุค และเป็นปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญวิชาอี้จิงสายรูปลักษณ์และตัวเลข ซึ่งได้แต่งตำราที่เป็นประโยชน์ต่อการศึกษาอี้จิงหลายเล่ม และวิชาทำนายดอกเหมยของท่านนั้นยังเป็นวิชาที่ได้รับการยอมรับและเหล่าซินแสต้องศึกษากันมาจนถึงปัจจุบัน

ถ้าใครได้มาอ่านเนื้อหานี้และเคยได้ดูหนังชุดที่ว่านี้อาจจะร้อง “อ๋ออออ” และสนใจวิชาทำนายดอกเหมยนี้ขึ้นมาทันทีก็ได้ครับ ฮะๆ

เสียดายว่า ถ้าหนังชุดนี้มาฉายในสมัยนี้ คงได้มีคนแห่เข้ามาชมบล็อกผมกันถล่มทลายแหงๆ

วันนี้ผมก็เลยเอาหนังชุดนี้ที่ลงในเว็บจีนมาฝากกันครับ สำหรับใครที่จำเรื่องได้ก็อาจจะดูทบทวนความจำได้ไม่ยาก แต่ถ้าใครไม่เคยดูแต่ว่าฟังและอ่านภาษาจีนออกก็ยินดีด้วยครับ ส่วนพากษ์ไทยผมไม่รู้เค้าจะมีมั้ยนะครับ ถ้าใครมีข้อมูลก็มาบอกด้วยนะครับ จะเป็นพระคุณ

ลองเข้าไปดูนะครับ เค้าลงให้ดูครบทุกตอนเลย

http://www.tudou.com/playlist/id/1438986/

อ้อ คนที่ดูแล้วหรือเคยดู คิดเห็นยังไงก็มาแลกเปลี่ยนกันหน่อยนะครับ